ชวน “ออเจ้า” ชมเมืองเก่า ตามรอยพรหมลิขิต เที่ยวอยุธยา

วันที่ : 19 Dec 2023 ผู้เขียน : Krungsri Consumer

วันหยุดยาวกำลังจะมาถึง! สิ้นปีนี้ใครที่อยากท่องเที่ยวแต่ไม่อยากเดินทางไกลเชิญมามุงที่นี่เลย เพราะทริปนี้ Krungsri consumer และ Chill with me ขอชวน “ออเจ้า” อิ่มเอมไปกับสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ สัมผัสบรรยากาศกรุงเก่าที่จังหวัดอยุธยา เที่ยววัดดื่มด่ำความงดงามของโบราณสถานที่หลาย ๆ คนอยากจะไปสักครั้ง ตามรอยละครดังจากพรหมลิขิตและบุพเพสันนิวาส พร้อมเช็กอินคาเฟ่วิวสวยรอบเมือง ร้านอาหารอยุธยานั่งชิลยาว ๆ ถ่ายรูปสวย ๆ ได้ตลอดทั้งวัน แถมได้ความคุ้มค่าสุดๆ จะเที่ยวก็ฟิน จะกินก็ถูกใจ ช้อปสบาย ๆ และได้ความสุขที่คุณต้องการ เพราะมีบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ช่วยดูแลในทุกทริปสำคัญของคุณให้ครบจบพร้อมในทุกสถานการณ์ ถ้าพร้อมแล้ว...มาออกเดินทางกันเลย!

วัดไชยวัฒนาราม

สถานที่แรกนี้ เราจะพาเพื่อน ๆ นั่งไทม์แมชชีนย้อนอดีตกันสักนิด ไปที่ “วัดไชยวัฒนาราม” หนึ่งในวัดโดดเด่นกลางเมืองอยุธยา ซึ่งใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำละครเรื่อง บุพเพสันนิวาสและพรหมลิขิต จนเกิดเป็นกระแสให้แฟน ๆ ละครพร้อมใจกันมาเยี่ยมชมตามรอย

วัดไชยวัฒนารามเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าโบราณคู่บ้านคู่เมืองติดแม่น้ำเจ้าพระยา วัดมีอายุมากกว่า 300 ปีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จนได้ขึ้นเป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกอีกด้วย

เมื่อลองเดินเข้าไปข้างใน ก็จะพบกับความมหัศจรรย์ตระการตาอลังการ ของโบราณสถานที่เต็มไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีเจดีย์พระปรางค์ พระประธานองค์ใหญ่เด่นสง่าอยู่ตรงกลางเป็นจุดเช็กอิน และมีพระปรางค์อื่น ๆ อยู่รอบๆ ไม่คิดว่าคนสมัยนั้นจะสร้างออกมาได้ยิ่งใหญ่และสวยงามเยี่ยงนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคนั้นจริงๆ กลิ่นอายเก่า ๆ บวกกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไทย รู้สึกโชคดีมากเลยค่ะที่เกิดเป็นคนไทย และบ้านเมืองเรามีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ แบบนี้

ในวัดมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก จะมุมไหนก็เอาอยู่ ภาพคนสวย ๆ บวกกับวัดงาม ๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่องทั่วท้องนภา อะไรจะเลิศขนาดนั้นล่ะออเจ้า ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงนอกจากร้านอาหารอยุธยาแล้ว ใครไปใครมาเป็นอันต้องแวะเที่ยวที่นี่ด้วยอีกหนึ่ง ส่วนใครที่อยากจะตามรอยละครพรหมลิขิต อยากย้อนรอยแต่งตัวตามแม่นายการะเกด หน้าวัดเขามีบริการเช่าชุดไทย ไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดง ผู้ชาย ผู้หญิง รวมถึงชาวฟะรั่งคี ชาวต่างชาติชอบใส่กันมาก ราคาไม่แพง ใส่ถ่ายรูปเดินเล่นเที่ยวชมชิลๆ เลย จะได้เข้าธีมบรรยากาศด้วยหนาออเจ้า

Syama Ayudhya

มาต่อกันที่ “Syama Ayudhya” คาเฟ่สไตล์ฟิวชั่น ที่ผสมผสานระหว่างความเก่าสไตล์โบราณและโมเดิร์นได้อย่างลงตัว มีเสน่ห์โดดเด่นมากกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร โดยการนำเอาใต้ถุนของบ้านเรือนไทยอายุกว่าร้อยปี มารีโนเวทใหม่จนเกิดเป็นคาเฟ่แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำใจกลางเมืองอยุธยา บรรยากาศร้านค่อนข้างเงียบสงบร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้นานาพันธุ์ มีลมพัดเข้าออกเย็นสบายตลอดวันเลย

 

ทางร้านมีขนมและเครื่องดื่มอร่อย ๆ ให้เลือกมากมาย คือเลือกไม่ถูกเลยจ้า ทางร้านแนะนำเป็นเมนูลาเต้ทั้งแบบร้อนและเย็น บวกกับขนมสำหรับสายเฮลท์ตี้ Syama Greek Yogurt Homemade เนื้อสัมผัสแน่น กินคู่ผลไม้ท้อปปิ้งที่จิ้มเลือกได้เอง ฟินมาก! ขนมคือเขาทำเองทุกชิ้นอร่อยมากทุกคน อยากให้มาลองการันตีได้จากลูกค้าที่สั่งขนมทุกโต๊ะเลยค่า ส่วนเรื่องการใช้จ่ายก็สะดวกสุด ๆ ง่าย ๆ แค่จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ใบเดียวจบ ได้ของอร่อย ๆ ที่อยากได้ครบเลย

และไฮไลท์หลักของร้านก็คือ ด้านหลังของตัวร้านจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีฉากหลังเป็นพระปรางค์ของวัดพุทไธศวรรย์ เป็นอีก 1 วิวคาเฟ่สวย Unseen ที่ต้องมาถ่ายรูปเช็กอินกัน นั่งชิล สบาย ๆ คลายความเครียดพักผ่อนจิตใจท่ามกลางความชุ่มฉ่ำของสายน้ำ 10 10 10 ไปเลยจ้าร้านนี้ เจ้าของร้านคือน่ารักมาก บริการดีสุด ราคาไม่แพง บวกกับนั่งสัมผัสบรรยากาศไป ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ

Sala Ayutthaya Eatery and Bar

อีก 1 คาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่นี่คือ “Sala Ayutthaya Eatery and Bar” คาเฟ่มินิโทนขาวคลีนสไตล์ลอฟท์ติดริมแม่น้ำ ตัวตึกเป็นโรงแรมบูติระดับ 5 ดาวน่าพักมาก มีร้านอาหารที่อยู่ข้างล่างที่เสิร์ฟทั้งเมนูไทยและตะวันตก ใครที่อยากมารับประทานที่ร้านอาหารอยุธยาอร่อย ๆ ก็สามารถแวะกันได้ ร้านที่เราจะไปตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม แขกด้านนอกสามารถเข้ามานั่งแช่ นั่งชิลตากแอร์ อากาศเย็นฉ่ำ จิบเครื่องดื่มได้ตลอดทั้งวัน บรรยากาศร้านให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านใต้หลังคาเลยค่ะ

วิวจากด้านในร้านจะเป็นวิวเดียวกันกับร้านเมื่อกี้ คือวัดพุทไธศวรรย์นั่นเองแต่จะอยู่สูงกว่า ต่างกันที่บรรยากาศร้านที่คนละแนว มองจากวิวร้านเหมือนวิวฉากหนึ่งในละครบุพเพสันนิวาสเลย ขนมเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย เราเลือกดื่มง่ายๆ เป็น Iced Latte และ Cappuccino รสชาติกลมกล่อมเหมาะกับนั่งจิบกาแฟช่วงบ่าย ๆ และเขามีห้อง Art Gallery สำหรับคนที่ชอบงานศิลปะอีกด้วย ดื่มด่ำกับงานศิลปะ ถ่ายรูปฟิน ๆ มุมไหนก็โดนใจ ส่วนตัวคือเลิฟเลย นั่งชิลกับวิวมุมกว้างสุดลูกหูลูกตา รับรองประทับจิตประทับใจแน่นอน จะมาแอบงีบพักยามบ่าย ๆ ก็ได้ เอาแรงกันสะหน่อย วิวโรแมนติกกับบรรยากาศที่เป็นใจ ทางร้านเขากระซิบบอกมาว่าช่วงยามเย็นพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าเปลี่ยนสีตัดกับความงดงามของวัดที่เป็นฉากด้านหน้าคือสวยมาก เป็นคาเฟ่ที่ถ่ายรูปวิวได้สวยอีกที่หนึ่งเลย

วัดพระศรีสรรเพชญ์

ช่วงเย็นๆ แนะนำให้มาเดินเล่นชมนก ชมไม้ ชมความอลังกาล ย้อนรอยอดีตอีกที่ “วัดพระศรีสรรเพชญ์” ใครที่มาเที่ยวอยุธยาแล้วไม่มาวัดนี้ถือว่ายังมาไม่ถึงอยุธยา เป็นวัดที่ใหญ่มากมีประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกอีกด้วยหนาออเจ้า เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณอยุธยา ทุกมุมดูมีความหลังชวนให้น่าค้นหา จุดเด่นคือเจดีย์สำคัญ 3 องค์ ที่มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกา ตั้งเรียงรายเป็นสัญลักษณ์อย่างสวยงาม ในเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของราชวงศ์ในสมัยนั้น 3 พระองค์ ให้ได้กราบไว้

 

ภายในวัดยังมีร่องรอยอารยธรรมของสิ่งก่อสร้างที่สำคัญอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ วิหาร หอระฆัง พระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่เป็นจำนวนมากมายวางเรียงกัน ซึ่งสถานที่นี้ล้วนแต่ทรงมนต์เสน่ห์สวยงามสะท้อนวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทยได้เป็นอย่างดี พอได้มาเห็นแบบนี้รู้เลยว่าถ้าได้ย้อนกลับไปในยุคนั้น จะได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองตระการตาที่น่าประทับใจแน่นอนค่ะ

บริเวณวัดคือกว้างมาก สามารถเดินเที่ยวชมได้ตามใจชอบ เขามีมัคคุเทศน์นำเที่ยวเล่าความเป็นมาของวัด ได้ฟิวส์แบบมาทัศนศึกษาเหมือนตอนมากับโรงเรียนเลย หากไม่อยากเดินเขาก็มีบริการเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมรอบ ๆ ได้ และคนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวจะอยู่ถึงตอนกลางคืน เพราะเป็นช่วงไฮไลท์สำคัญที่หลายคนเฝ้ารอ คือการเปิดไฟประดับแสงสีทองส่องสว่างอลังการไปทั่วทั้งวัด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอยุธยาที่อยากแนะนำให้มาจริง ๆ ค่ะ

The Summer Coffee Company

ก่อนจบทริป เราขอพาทุกคนแวะอีกร้านที่ “The Summer Coffee Company” ร้านตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของอยุธยา เป็นตึกแถว 2-3 ตึก เข้าไปแล้วไม่รู้สึกว่าอยู่ในตึกแถวเลย บรรยากาศร้านกว้างขวาง มีต้นไม้ร่มรื่น ด้านนอกทำเป็นกำแพงทึบ ตกแต่งสะดุดตา มีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม สำหรับเหล่าคอกาแฟตัวยงน่าจะรู้จักแบรนด์ร้านนี้กันเป็นอย่างดี ร้านกาแฟเขามีโรงคั่วเป็นของตัวเองแถมยังส่งออกทั่วประเทศ เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง สายกาแฟห้ามพลาดมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ที่สำคัญคือมีเมนู signature ให้ลิ้มลองกันเยอะมาก และทางร้านยังมีขายผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย เช่น แก้วน้ำ เสื้อ ฯลฯ

 

ร้านนี้จะมีทั้งโซน indoor และ outdoor ให้เลือกนั่ง ซึ่งช่วงเวลาที่เราไปถึงอากาศกำลังดี เหมาะกับการออกมานั่งรับลมธรรมชาติด้านนอก นั่งแต่งรูปหลังจากที่ถ่ายมาทั้งวัน อัพโพสต์อวดโซเชียล และสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ มาจิบให้ชื่นใจก็มีความสุขแล้ว ที่เราเลือกสั่งมาเป็นเมนู Signature ของทางร้าน Summer Time ส่วนผสมหลักคือการเลือกใช้ผลไม้เมืองร้อนอย่างสับปะรดและมะม่วงมาผสมกับกาแฟที่ให้รสชาติหอมหวานกลิ่นผลไม้สุก ดื่มแล้วสดชื่น อีกเมนูคือ Thai Thai Dirty รสชาตินัว ๆ กลมกล่อม คือเมนูเครื่องดื่มเขามีความหลากหลายมาก ต้องมาลองเลย สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และสิบตาเห็นก็ไม่เท่าได้มาลองเองน้าทุกคน

จากกระแสละครพรหมลิขิต ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอยุธยาคึกคักอีกครั้ง ผู้คนจากต่างเมืองหลั่งไหลมาตามรอยที่นี่ โดยเฉพาะวัดวาอารามเก่าแก่ กลับมาเป็นกระแสยอดฮิตอีกครั้ง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สวยๆ ที่เราได้แนะนำพาเพื่อน ๆ ไป คนก็แห่ไปเที่ยวถ่ายรูปเช็กอิน ไปกินของหวาน ไปทานเครื่องดื่ม ไปเที่ยวให้ชุ่มชื่นหัวใจกันเลยจ้าแม่จ๋า จะเที่ยวกับครอบครัว เที่ยวกับแฟน หรือไปคนเดียวก็สนุกไม่เหงาใจ ยิ่งมีบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์พกไปด้วยแล้ว เหมือนมีเพื่อนติดตามไปทุกที่เลยหนาออเจ้าทุกคน

ทุกร้านที่เราไปสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ได้ เมื่อใช้จ่ายครบ 25 บาท รับพอยต์ 1 คะแนน และทุกๆ 1,000 คะแนน แลกเป็นเครดิตเงินคืนได้ 100 บาท!!! นอกจากจะสะดวกสบาย บัตรใบเดียวเอาอยู่แล้ว ยังได้เงินคืนอีก แถมยังสามารถแลกรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ใช้จ่ายคล่อง สบายกระเป๋า ช่วยดูแลในทุกทริป ทุกความสุขของคุณแน่นอน!

**ใช้หรือกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี สำหรับวงเงินบัตรเครดิต และ 25% ต่อปีสำหรับวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล

แชร์บทความนี้ไปยัง

บทความน่าสนใจอื่นๆ