ความยิ่งใหญ่ของพลังบวก

วันที่ : 13 Jan 2023 ผู้เขียน : Krungsri Consumer

ในโลกทุกวันนี้ หากคนเราใช้ชีวิตอย่างขาดสติ จมกับความทุกข์ใจ คิดวนเวียน กับความทุกข์ ทั้งปัญหาต่างๆ รวมถึงปัญหาด้านหนี้สิน เราก็จะมืดมน มีแต่พลังลบภายในจิตใจ แต่ถ้าเรามีที่พึ่งทางจิตใจที่ดี เปลี่ยนกระบวนการทางความคิด ลุกขึ้นสู้กับตัวเอง เจอกับคนที่เข้าใจ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จากพลังด้านลบ จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังบวก ให้กับตัวเอง ไม่ว่าปัญหาจะหนักแค่ไหน ก็พร้อมที่ลุกขึ้นสู้ใหม่ ได้เสมอ เหมือนดั่งเรื่องราวของลูกค้าท่านหนึ่ง ที่พร้อมสู้กับปัญหา และยังส่งพลังบวกให้กับเจ้าหน้าที่ให้บริการฝ่ายติดตามทวงถาม

เจ้าหน้าที่ให้บริการฝ่ายติดตามทวงถาม มีนัดลูกค้าติดต่อแจ้งยอดในการชำระ กล่าวด้วยประโยคสนทนา เหมือนคนที่พูดคุยกันอย่างคุ้นเคย

ลูกค้าได้แจ้งกับเจ้าหน้าว่า…รอผมอีกหน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมจัดให้ ตอนนี้ผมก็รอฟังผลการสมัครงาน เร็วๆ นี้น่าจะได้งานทำแล้วครับ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้โทรหาลูกค้าท่านนี้ เจ้าหน้าที่มีการติดต่อและพูดคุยเรื่องการชำระยอด ตลอดเวลาจนได้ทราบถึงปัญหาลูกค้าว่าแต่ก่อนลูกค้าเคยมีธุรกิจขายของออนไลน์ แต่การวางแผนของลูกค้า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกิดผิดพลาด ทำให้ธุรกิจเกิดติดขัด ทุนจม ไม่สามารถดำเนินธรุกิจต่อไปได้ ลูกค้าจึงต้องหางานทำ เพื่อมาแบ่งเบาภาระในการใช้ชีวิต และอีกหนทางหนึ่งคือการหันหน้าเพิ่งธรรมมะ นั่งสมาธิ เพื่อบรรเทาความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น

ในวันนี้ลูกค้าก็พรั่งพรูความรู้สึกในจิตใจ และแชร์เรื่องราวต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ได้รับฟัง “ผมมีกลุ่มเพื่อนของผมที่นั่งสมาธิด้วยกัน ผมก็ได้แชร์และพูดคุยกับเพื่อนๆในกลุ่ม ผมบอกกับเพื่อนๆว่าโชคดีมากๆเลยที่ได้เจอคุณ

จริงๆแล้ว อย่าหนีปัญหา หากมีปัญหาอะไรแล้ว ต้องคุยกับเขาตรงๆ ต้องกล้าที่จะเผชิญปัญหา และกล้าที่จะยอมรับความจริง และก็หาแนวทางร่วมกันในการแก้ใขปัญหา ซึ่งก่อนหน้านั้นคุณเจ้าหน้าที่รู้ไหม ผมนั้นค่อนข้างกลัวเสียงโทรศัพท์ ไม่กล้าที่จะรับสาย แต่ตอนนี้ ผมไม่กลัว และผมมีความสุขมากเลยที่ได้คุยกับคุณเจ้าหน้าที่”

เจ้าหน้าที่ให้บริการฝ่ายติดตามทวงถาม เข้าใจถึงปัญหาลูกค้าและแจ้งกับลูกค้าอย่างเสมอว่าสามารถร่วมกันพูดคุย ซึ่งกันและกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน ถ้าลูกค้าชำระไม่ไหวจริงๆ อันนี้ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าใจ ขอให้พุดคุยกัน เพื่อหาทางออกที่ดีร่วมกัน

ลูกค้าเข้าใจได้ปรับความคิดในการชำระหนี้ใหม่ คือต้องมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุยกัน หลายคนกลัวเรื่องตรงนี้ พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่ในทุกๆครั้งที่ติดต่อมา ก็เปิดใจซึ่งกันและกัน และได้เรียนรู้ว่า ปัญหาของเราที่กำลังทุกข์ อย่างน้อยๆ เราวางมันลงและหาหนทางแก้ไข

คิดในทางที่ดี อย่างน้อยหนี้ก็ยังเป็นหนี้ที่อยู่ในระบบ ถ้าเปรียบเทียบกับคนที่เป็นหนี้นอกระบบ ปัญหาจะเยอะมากกว่า อย่างไรลูกค้าจะพยายามแก้ไขปัญหาตรงนี้ ให้เร็วที่สุด และไม่อยากให้เป็นภาระของคุณเจ้าหน้าที่ด้วย

เจ้าที่ให้บริการฝ่ายติดตามทวงถาม เมื่อได้ฟังลูกค้าเช่นนั้น อดคิดขึ้นในใจไม่ได้ว่า ทำไมลูกค้าของเราถึงได้มีจิตใจที่ดี และ น่ารักขนาดนี้ จึงเสนอช่วยเหลือพร้อมดูแลบัญชี ให้กับลูกค้า อย่างที่ทำเสมอ และยินดีมากๆเช่นกันที่จะติดต่อลูกค้า เพื่อสอบถามการชำระ แจ้งยอดชำระ จนกว่าลูกค้าท่านนี้จะผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไป

ลูกค้ากล่าวทิ้งท้ายจากใจจริงว่า"ผมไม่เคยเจอใครที่คุยแล้วเข้าใจ ผมไม่เคยเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบนี้ ผมเลยนึกไม่ออกเวลามีเจ้าหน้าที่โทรมา เขาจะพูดคุยแบบไหนกับผม พอมาเจอคุณ ผมไม่เคยคิดเลยว่า เขามีเจ้าหน้าที่ ที่พร้อมคุยกับเราหาแนวทางช่วยเหลือ ไม่ได้มาบังคับ ขู่เข็ญผม ไม่ได้ทวงแต่หนี้อย่างเดียว ได้คุยและให้กำลังใจด้วย ผมมีพลังเลย ผมจึงนำเรื่องราวไปแชร์และแบ่งปัน กับคนที่เขากำลังมีปัญหาแบบผมอยู่ด้วย ขอบคุณมากๆนะครับ"

เรื่องราวดีๆแบบนี้ พูดได้เลยว่า เราได้รับพลังบวก จากทั้งลูกค้าและเจ้าหน้าที่ ที่มาจากการรับฟังกัน ปรับความคิดซึ่งกันและกัน และให้กำลังใจในทุกๆครั้ง จนก่อเกิดเป็นมิตรภาพเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในจิตใจ

แชร์บทความนี้ไปยัง